กระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นได้ไง ........สำหรับบางท่านอาจจะยังไม่เคยเป็นโรคนี้ ทางการแพทย์เรียกย่อๆว่า UTI มาจาก Urinay trac infection แต่หากเราไม่รู้ว่าสาเหตุุของมันเกิดจากอะไรก็อาจจะทำให้เราเป็นได้นะครับ วันนีี้เรามาดูกันนะครับว่าที่เราเป็นโรคนี้สาเหตุน่าจะมาจากอะไร และเราจะดูแลตัวเองอย่างไร
โรคนี้เกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายจริงหรือไม่ จากประสบการณ์ที่ผมได้เจอมาจากการซักประวัติผู้ป่วยพบว่า โรคนี้พบมากในผู้หญิงครับ ผู้ชายก็มีเหมือนกันนะครับ แต่นานๆจะเจอสักคน แล้วทำไมผู้หญิงจึงเป็นโรคนี้ได้มากว่าผู้ชาย นั่นล่ะซิ...........ท่านผู้รู้บางท่านก็บอกว่าผู้หญิงท่อปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชาย ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่ายกว่า ท่านว่าจริงหรือไม่ครับ......และอีกอย่าคือเวลาเข้าห้องน้ำผู้หญิงต้องนั่งปัสสาวะแล้วอาจจะมีน้ำจากโถส้วมกระเด็นมาถูกหากล้างไม่ดี ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้ติดเชื้อได้ง่ายนะครับ
แล้วมีสาเหตุอื่นๆอีกมั้ยครับ.......การกลั้นปัสสาวะนานๆก็เป็นอีกสาเหตุ เราอาจจะนั่งรถนาน หรือทำงานยุ่งเลยลืมเข้าห้องน้ำ การดื่มน้ำน้อย ในหนึ่งวันไม่ดื่มน้ำไม่ถึง 8 แก้ว ต้องระวังไว้ให้ดีนะครับ คุณอาจจะเป็นโรคนี้ได้ ปริมาณน้ำที่แนะนำต่อวันที่ควรดื่มให้ได้คือ 3000 cc ต่อวันครับ หรือบางคนบอกว่าไม่รู้ดื่มได้เท่าไหร่แล้วเพราะไม่ได้ตวง เอาง่ายๆครับ ดื่มให้มากๆ แล้วดูสีของปัสสาวะว่าถ้าปัสสาวะใส เป็นใช้ได้ แต่ถ้าปัสสาวะเหลืองข้ม แสดงว่าดื่มน้ำไม่พอต้องดื่มจนปัสสาวะใสครับ แล้วการดื่มน้ำในปริมาณมากๆก็ทำให้ร่างกายสดชื่น ผิวพรรณเปร่งปรั่ง ระบบต่างๆในร่างกายทำงานเป็นปกติ ซึ่งมันมีข้อดีตั้งหลายอย่าง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องให้ความสำคัญกับการดืมน้ำด้วยนะครับ.........
แล้วอาการที่จะพบในโรคนี่มีอะไรบ้าง?........ ถ้าเป็นไม่มากบางคนจะมาพบแพทย์ด้วยปัสสาวะแล้วมีแสบขัด ปวดท้องน้อยเหนือหัวหน่าว หรือบางคนก็ปวดหลัง ปวดเอว สำหรับคนที่เป็นมาก ก็จะมาพบแพทย์ด้วย ปวดท้องน้อย ปัสสาวะขัด มีไข้หนาวสั่น หากไม่รีบรักษาก็อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้นะครับ เพราะอาจจะทำให้เราติดเชื้อในไต แล้งส่งผลให้เป็นโรคไตตามมา หรือเลวร้ายกว่านั้นก็อาจจะให้ภาวะ septic shock ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว..........
ถ้าเป็นแล้ว หรือคิดว่าตัวเองกำลังจะเป็นโรคนี้ ก็อย่างลืมคำแนะนำที่ผมน้ำมาฝากในวันนี้นะครับ แล้วโรคนี้ก็จะไกลจากเรา.........................http://www.amazon.com/?_encoding=UTF8&tag=wwwstory2heal-20
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น